วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลิงกับลา

FW: ลิงกับลา + อ่านไม่ถึง 3 นาที แง่คิดดีมากมาย
keeratima athipchatsiri [keeratimaa@yahoo.com]
30 สิงหาคม 2010 22:56
--------------------


หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา

วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อ ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของ ต่างๆ ได้รับความเสียหาย

ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีก ทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ

สักครู่หนึ่ง หญิง ชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง

ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที หันมองลิงและลา เพื่อ ดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ

ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย เธอทั้งหลาย...

หลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย ส่วน เจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น! และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ

แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือลิง

ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจ ร่อง รอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน

เหตุที่องค์กรต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์" ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง

นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม รู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง เพื่อ ควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย

66 ความคิดเห็น:

SpecialTEAM กล่าวว่า...

อย่าตัดสินอะไรเพียงแค่ภาพที่เห็น



ชื่ออิทธิพงศ์ ดีประสิทธิพร
กลุ่ม 35 เลขที่ 50

oil กล่าวว่า...

เป็นแง่คิดที่ดีมากมายเพราะสื่อให้เห็นถึงความไม่รอบคอบและความเข้าใจผิดโดยไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วนให้ดีสะก่อน

sugarlord กล่าวว่า...

อ่านแล้วมองย้อนถึงสภาพสังคมปัจจุบันเลยครับ
การเป็นแพะให้คนอื่น จริงๆแล้วไม่ใช้จากผู้กระทำผิด
แต่มาจากผู้ที่ตัดสินต่างหาก น่าเศร้าจริงๆ
พรภวิษย์ จั่นมณี
กลุ่มที่ 35 เลขที่42

pukie กล่าวว่า...

นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าอย่ามองเหตุการณ์หรืออะไรต่างๆแต่ภายนอก

ควรมีสติคิดวิเคราะห์ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาจะได้ไม่คุ้มเสีย

ชื่อปวรวรรณ อาชาภิชาติ กลุ่ม35 เลขที่ 3

bow ^_________^ กล่าวว่า...

บทความเรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า

เราควรมองและคิดอะไรให้รอบคอบ

ก่อนจะตัดสินใจหรือทำอะไรลงไป

เพราะถ้าทำอะไรไม่คิดให้ผลที่ตามมา

ก็อาจจะทำให้เราเสียใจภายหลังได้



น.ส.ขวัญแก้ว รอดไพร กลุ่ม 35 เลขที่ 34

ArchWriter กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ArchWriter กล่าวว่า...

สังคมไทยทุกวันนี้ ยังมีคนที่ตัดสินอะไรแบบนี้อยู่ เลยทำให้สังคมไทยเราไม่ค่อยพัฒนา

เป็นการตัดสินใจที่ไม่ใช้ความคิดเอาซะเลย
.
.
.
ไม่รู้ว่าอีกต่อไปคนที่ตัดสินผิดๆ ง่ายๆ แบบนี้จะลดลง หรือเพิ่มมากขึ้นอีก

ชื่อนางสาวสุชาดา สรธรโชติ กลุ่ม 35 เลขที่ 31

kookkik กล่าวว่า...

อย่าตัดสินอะไรที่ภายนอก ควรนึกคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไร จะได้ไม่เสียภายหลัง

ชื่อ พัชรี สว่างเวียง กลุ่ม 35 เลขที่ 11

sa_23 กล่าวว่า...

การจะตัดสินใจอะไรลงไป
ก้อควรน่าจะไตร่ตรองให้ดีซะก่อน
ไม่ควรตัดสินที่ภายนอก

sa_23 กล่าวว่า...

การจะตัดสินใจอะไรลงไป
ก้อควรน่าจะไตร่ตรองให้ดีซะก่อน
ไม่ควรตัดสินที่ภายนอก

ชื่อ น.สประภา สัทธยาสัย
กลุ่ม 35 เลขที่ 26

pigcrazy กล่าวว่า...

จากเนื้อเรื่องที่ดิฉันได้อ่านข้างต้นนี้ได้สะท้อนถึงสภาพสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วยังสะท้อนให้เห็นว่าเราไม่ควรเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเพียงอย่างเดียว ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ

นางสาวนันทิยา จันบัวลา คณะวิทยาการสารสนเทศ
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ รหัสนิสิต 53160076
กลุ่ม 35

Soda กล่าวว่า...

จากที่ผมได้อ่านบทความที่อาจารย์ได้ลงไว้ผมได้ตระหนักถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทยว่าอย่ามองเหตุการณ์หรืออะไรต่างๆแต่ภายนอกเราควรมองและคิดอะไรให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจหรือทำอะไรลงไปเพราะถ้าทำอะไรไม่คิดให้ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้เราเสียใจภายหลังได้สังคมไทยทุกวันนี้ ยังมีคนที่ตัดสินใจที่ไม่รอบครอบเลยทำให้สังคมไทยเราไม่ค่อยพัฒนาและยังเดินอยู่กับที่การที่เราจะทำอะไรแล้วควรทำอย่างรอบคอบตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนอย่าคิดระแวงกันและไว้ใจกัน ผลสุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ลงเอยด้วย คำว่า สามัคคี ครับ


นายศุภรัตน์ รื่นเรืองฤทธิ์ นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีวเคมี รหัสนิสิต53530494 กลุ่มที่ 304 เลขที่ 28

ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดดีดี!!

skylines กล่าวว่า...

นี่แหละคือนิสัยของหลายๆๆคน
มักเชื่อในสิ่งที่ตนเห็นครั้งแรก
และไม่ยอมพิจารณาถึงเหตุการณ์
และไม่ฟังความคิดเห้นของคนอื่น
เพราะว่าเอาความโกรธมาบิดกั้นเอาไว้
เอาความโมโหเป็นใหญ่
จึงก่อให้เกิดความเสียของสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธ์

โดย 53530486 นางสาวจันทิมา วรรณชาติ
กลุ่ม 304 เลขที่ 22

PALMY กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
numyen กล่าวว่า...

ได้อ่านเรื่องลิงกับลาแล้วได้คิดอะไรหลายๆๆอย่างสอนถึงการคิดและการสื่อสาร และการทำอะไรต้องรู้จักรอบคอบซึ่งบทความใร่องนี้ยังสะท้อนถึงสังคมในปัจจุบันดังนั้น เราจะตัดสิ้ใจอะไรต้องยึกหลังความเป็นจริงและชีวิตเราจะมีความสุข
น.ส. พรศิริ ขันนาค
เลขที่ 13 กลุ่ม306

Nu kookkai กล่าวว่า...

การเป็นผู้นำที่ดี ไม่ได้ตัดสินคนเพียงแค่ตาที่มองเห็น แต่การเป็นผู้นำที่ดีนั้นก่อนจะตัดสิ้นใจในเรื่องเรื่องใดควรพิจารณา ถึงเหตุผลความเป็นไปได้จากบุคคลหลายๆผ่าย ไม่ใช่เอาความคิดเห็นของตนเป็นที่ตั้ง เพระคนเรานั้นต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ก็ย่อมที่จะมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดกันได้ เพียงแค่ถามถึงเหตุผลจากคนอื่นก่อนอะไรที่เราจะตัดสินใจไป จะมีมีความรัดกุมมากขึ้น
นางสาวจารุพร เพิ่มเพียร เลขที่8 53530338 กลุ่ม 304

A-CHIWHA กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
PALMY กล่าวว่า...

เห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าไม่ไตร่ตรองพิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ จึงจะตัดสินความผิดให้แกบุคคลนั้นได้ ดังคำที่กล่าวไว้ว่า "สละเวลาสักนิด" ตรงนี้ไม่เสียหายเลย หากจะหาคนที่ผิดจริงได้

น.ส.ทิชากร เวียนวัฒนา รหัสนิสิต 53530489 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีวเคมี เลขที่ 25 กลุ่ม 304

A-CHIWHA กล่าวว่า...

การที่คนเราจะตัดสินใจทำอะไรลงไปนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับว่า
เราจะเลือกมองคนที่ผลงานหรือว่าคำพูด เพราะว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามบุคคลที่ทำงานจริง (บุคคลที่ทำงานเบื้องหลัง) ว่าเขามีความตั้งใจและมีความพยายามมากน้อยเพียงใด บางคนไม่ยอมทำอะไรเลยแล้วเวลาที่เสนอผลงานก็มาพูดว่างานดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ความจริงแล้วตนเองกับไม่มีหน้าที่อะไรในงานชิ้นนั้นเลย ~





นางสาวกิตติยา ไชยสัตย์ เลขที่ 21 กลุ่ม 304

[Gon]X[Fish]-[DarkJunior] กล่าวว่า...

บทความ ให้คติไว้ว่า อย่าตัดสินอะไรเร็วเกินไป หรือ อย่าเข้าข้างฝ่ายเดียว เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นอาจเดือดร้อนได้ พอมารู้ทีหลังอาจรู้สึกเสียใจภายหลังได้ ดังนั้นก่อนทำสิ่งใดควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ

หญิงแพรว กล่าวว่า...

จากบทความนี้ทำให้เราได้รู้ว่า

- เราไม่ควรจะตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็น เพราะสิ่งที่เห็นนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป เราควรที่จะมีสติ คิดและถามความจริงจากบุคคลนั้นก่อน
ไม่ใช่ว่ามาตัดสินและลงโทษจากสิ่งที่เห็น คนเราควรคิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำไปเพราะในบางเรื่องนั้นเมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้วก็ไม่อาจจะย้อนเวลากลับคืนไปได้และเราอาจจะมาเสียใจในภายหลัง

- คนเราควรจะยอมรับความจริง หรือยอมนั้นในสิ่งที่เราทำไม่ว่าจะถูกหรือผิดเพราะสิ่งนั้นคือสิ่งที่เราได้ลงมือทำไปแร้ว และไม่ควรที่จะโยนความผิดให้กับผู้อื่น นอกจากจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอีกด้วย

ชื่อ นางสาวปาจรีย์ เชาวดี เลขที่ 1 กลุ่ม 304

petcharat กล่าวว่า...

สิ่งที่เราเห็นเเละที่เรารับรู้มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ เราควรจะคิดไตร่ตรองให้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรดีอะไรไม่ดี เเล้วค่อนตัดสินใจให้รอบคอบ


อย่าตัดสินใจที่ภายนอก

แต่ในสังคมไทยอาจจะเปลี่ยนเเปลงยากหน่อยสำหรับปัญหานี้

ชื่อเพชรรัตน์ ไสว กลุ่ม 304 เลขที่ 3

nure กล่าวว่า...

ในความคิดของผมนะคับ คนที่เก่งฉลาดและมีความสามารถนะถ้าไม่ลงมือ ทำงานที่ตนทำแล้วเก่งกว่าคนอื่น ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนโง่ที่ทำอะไรไม่เป็น แต่ใช่ว่าคนที่โง่จะไม่มีวันเก่งขอเพียงแค่เค้าคนนั้นลงมือทำและทำอย่าเต็มที่เขาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนที่เก่งแล้วมีความสามารถเลย

กลุ่ม304 เลขที่18 นายวันเฉลิม จินอู๋ รหัส 53530353

[Gon]X[Fish]-[DarkJunior] กล่าวว่า...

บทความ ให้คติไว้ว่า อย่าตัดสินอะไรเร็วเกินไป หรือ อย่าเข้าข้างฝ่ายเดียว เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นอาจเดือดร้อนได้ พอมารู้ทีหลังอาจรู้สึกเสียใจภายหลังได้ ดังนั้นก่อนทำสิ่งใดควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ
นาย ณัฐพงศ์ วงษ์เสนา 53530341 เลขที่ 9 กลุ่ม 304

อโยธานี ศรีหนองหาร กล่าวว่า...

จากที่ได้อ่านบทความมา กระผมคิดว่าผู้เขียนบทความนี้มีความรู้อย้างยิ่ง จากกรณีของของลิงที่เป็นตัวที่ทำปัญหานั้นก่อเหตุวุ่นวายแต่ไม่ได้รับโทษนั้น เป็นการกระทำของเจ้าของมันเพราะเจ้าของของมันไม่ดูหรือคิดก่อนว่ามันป็นได้ไหมที่เหตุการณ์อย่างนั้นจะเกิดเพราะลา จึงทำให้ผู้เขียนบทความนี้ออกมาตักเตือนพวกที่เป็นเจ้าคนนายคนแต่คิดว่าตัวเองสำคัญที่สุด ไม่ฟังเหตุฟังผล พูดไปโดยไม่คิด ทำไปโดยไม่รับฟังเหตุผลของคนอื่นก่อน เปรียบดั่งเห็นผิดเป็นชอบ บุคคลหรือปัญญาชนที่มีลักษณะเช่นนี้จะมาทำร้ายพวกเรา หรือทำร้ายสังคมของเราให้เดื่อดร้อนทุกวัน ดังที่เห็นในปัจจุบัน
ดังบทที่พระพุทธโคดมได้ตรัสไห้กับอานนท์ว่า "ดูก่อนอานนท์ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคนนั้น ย่อมมีถูกมีผิดเป็นธรรมดา เจ้าต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำอะไรลงไป เมื่อทำลงไปแล้วมันเอากลับคืนยาก"


นายณัฐพงษ์ ภูเวียนวงค์
รหัสนิสิต 53530487 เลขที่23 กลุ่ม 304 ภาควิชาชีวเคมี

Tip กล่าวว่า...

การที่เราจะทำการสิ่งใดนั้นเราจะต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าสิ่งที่เราทำอย่มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรอไม่และบางครั้งการที่เราทำดีนั้นไม่จำเป็นจะต้องให้คนอื่นรู้เสมอไปแต่เราจะต้องรับรู้ด้วยตัวเองว่านี่คือสิ่งที่ถูกที่ควร

by เพชรรัตน์ ผาดี กลุ่ม 304 รหัส53530492
เลขที่27

Ja sensible กล่าวว่า...

"บางสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น"
ควรคิดพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเสียก่อน
ไม่ใช่เชื่อในสิ่งที่เห็นแล้วนำมาตัดสิน

เรื่อง "ลิงกับลา" ทำให้ได้มองแง่คิดหลายมุม สามารถนำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ ทั้งยังเห็นถึงปัญหาสังคมไทยที่ผู้นำในองค์กรต่างๆตัดสินใจผิดพลาดทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา ดังนั้นสังคมไทยน่าจะนำเรื่องนี้ไปเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงค่ะ

นางสาวสุภิญญา ชำนาญกุล
คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชา ชีวเคมี
รหัสนิสิต 53530495 กลุ่มที่ 304 เลขที่ 29

farm กล่าวว่า...

จากที่ได้อ่านบทความนี้แล้วก็รู้สึกสงสารลา เมื่อนำมาเปรียบเทียบเป็นคน ก็คงไม่มีใครชอบคงจะรู้สึกแย่ที่ตนเองไม่ได้ทำความผิดแต่กลับโดนใส่ร้าย ทำให้คนอื่นเข้าใจตนเองผิด ก็อยากจะบอกว่า"อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น"ควรคิดพิจารณา ไตร่ตรองดูให้ดีเสียก่อน ว่าสิ่งนั้นมันเป็นไปได้มั๊ย มันถูกต้องแล้วหรือ เพราถ้าเราพูดหรือกระทำการอะไรไปแล้ว มันจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขในสิ่งที่ทำลงไปได้ มันอาจจะสายเกินไปแล้ว

นายกิตติศักดิ์ วิจารณ์ปรีชา
กลุ่ม 304 เลขที่ 7

Monzy กล่าวว่า...

การที่เราจะทำสิ่งนั้น เราจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นไปด้วยความชอบ ประกอบไปด้วยธรรม และไม่บิดเบือนต่อผู้ใด

นางสาว รสมล พูลสวัสดิ์ กลุ่ม 304 เลขที่4

PLA กล่าวว่า...

เป็นข้อคิดเตือนใจว่าอย่าตัดสินอะไรที่ภายนอกเพียงเพราะเหตุการณ์ที่เห็น ควรคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนและก่อนที่เราจะคิดทำการสิ่งใดก็ขอให้ความคิดนั้นเป็นไปด้วยความดี



นางสาว ปาริชาติ บุญสุข เลขที่ 2 กลุ่ม 304

TAM กล่าวว่า...

หลังจากที่ได้อ่านอย่างจดจ่อกับนิทานเรื่องลิงกับลาแล้ว สามารถนำข้อคิดจากเรื่องดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับการกระทำ กระบวนการทำงานของบุคคลสำคัญในสังคมรวมทั้งบุคคลทั่วๆไปที่มีความสับเพร่าในการทำงานจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่น ทางการเมืองที่มีการแบ่งสีแบ่งพวกตีกัน ในความคิดของดิฉัน ดิฉันคิดว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปฟังข่าวลือที่ไม่ดีอะไรของอีกฝ่ายหนึ่งมาโดยคิดแต่ทางลบอย่างเดียว ไม่ลองไตร่ตรองความเป็นไปได้ให้ดีๆก่อน จนก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างไม่มีเหตุผล เปรียบเสมือนว่า คนที่ฉลาดและร้ายที่สุดคือคนที่เป็นผู้จุดฉนวนให้เกิดความแตกแยก(ลิง) คนที่หลับหูหลับตาเชื่อเขาไปทุกเรื่อง ใส่ร้ายซึ่งกันและกันจนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทสร้างความเดือดร้อน(คน) คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กลับเป็นชาวบ้าน ประชาชนทั่วไปที่ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งด้วยก็ได้รับความเสียหายต่างๆ มากมาย(ลา) ฉะนั้นเราประชาชนทุกคนไม่อยากเป็นลาน่าจะมาช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาสังคมซึ่งเป็นบ้านของเราทุกคนกันเถิด...^^

BYFERN กล่าวว่า...

คุณสมบัติของความเป็นผู้นำ สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือการคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจ
มิเช่นนั้นเราก็จะไม่สามรถที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้

อีกประการก็คือผู้นำไม่ควรใช้ความรุนแรงเพราะอารมณ์ของตน ควรคิดตัดสินใจให้ดีเสียก่อน

นางสาว พิชชาภา วงศ์เสถียร เลขที่15 กลุ่ม304

NaTTy กล่าวว่า...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การที่เราตัดสินใจอะไรโดยที่เราไม่คิดให้รอบครอบเสียก่อน มันจะมีกระทบไม่ใช่ที่ตัวเราเท่านั้นที่จะมารู้สึกผิดทีหลัง แต่มันจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนที่กระทำดีมาตลอด คนที่ทำดีอาจจะคิดท้อ เพราะมองเห็นว่ากรทำดีแล้วได้สิ่งที่ไม่ดีตอบกลับมา แต่คนที่กระทำผิดแต่กลับได้รับผลดี ไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป แล้วสุดท้ายคนที่ทำดีก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆผลกระทบก็สะท้อนกลับมาสู่สังคมที่กว้างขึ้น ดังเช่นสังคมไทยในปัจจุบันที่คนทำดี แล้วหน้าที่การงานและรวมถึงเรื่องต่างๆด้วยจะเจริญก้าวหน้าช้ากว่าคนที่ไม่ทำอะไรตามกติกา


นางสาวนธิรัตน์ สุวจสุวรรณ
กลุ่ม304 เลขที่10

ponvipa กล่าวว่า...

จากบทความเรื่องลิงกับลา เมื่ออ่านแล้วทำให้เกิดภาพสะท้อนออกมาได้หลายมุมค่ะ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคนที่ได้อ่านนั้นมองที่มุมไหน แต่สำหรับดิฉันแล้ว ดิฉันมองในแง่มุนที่กี่ยวกับการทำงานระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องค่ะ
เปลียบลิงกับลาเหนือนพนังงานคนหนึ่งที่มีหน้าที่ทำงานของแต่ล่ะคน คนหนึ่งชอบทำดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น แต่หรับอีกคนแล้วเป็นคนที่รับความชั่วจากคนอื่นที่กระทำไว้ให้ แล้วก็มีหัวหน้างานที่ไม่เคยรู้นิสัยของลุกน้องตัวเองซะเลย เมื่อถึงคราวหนึ่งเกิดเรื่องที่ต้องตัดสินใจหัวหน้างานคนนี้จึงตัดสินใจที่จะเลือกในสิ่งที่ผิดๆไว้กับตัว แล้วมักจะผลักสัยหรือทำร้างคนที่ทำดีออกไปให้ห่างจากตัว แต่เมื่อมาคิดได้ว่าทำอะไรลงไปก็สายไปเสียแล้ว ดิฉันคิดว่าบทความนี้เป้นบทความที่ดีมากค่ะ น่าจะเตื่อนสติของผุ้ที่อ่านได้ไม่มากก็น้อยค่ะ

นางสาว พรวิภา ฉิมประสูติ 53530345

MINI TaeW กล่าวว่า...

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การเป็นผู้นำ แต่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ ถูกต้อง แต่ไปเชื่อกับสิ่งที่เราเห็น โดยที่ไม่ด้ ไตร่ตรองให้ดีก่อน ก็อาจส่งผลไปถึง บุคคลที่ไม่ได้ กระทำผิดใดๆเลย ต้องมารับบาป หรือผลกรรมที่คนอื่นไ้ด้กระทำ ความผิดพลาดครั้งนี้ ถ้าผู้เป็นผู้นำได้ ตัดสินใจตามใจตัวเองแล้ว หรือ ตัดสินใจด้วยความคิดของตัวเอง โดนที่ไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือไม่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้รอบคอบก่อน มันก็อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ต่อไปเรื่อยๆ จนไม่มีทีี่สิ้นสุด

น.ส. มนฑิณี เกิดแย้ม
เลขที่ 16 กลุ่ม 304
รหัสนิสิต 53530351

NuN กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
NuN กล่าวว่า...

จานิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้หลายอย่าง ในแง่ที่ว่าที่ผุ้ที่จะตัดสินว่าใครผิดหรือถูกนั้น ใช่แค่เพียงดูแต่หลักฐานที่เห็นเพียงแค่นั้นก็ตัดสินว่าใครผิดหรือถูกแล้ว สังคมเราสมัยนี้ก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมใหญ่ เพราะส่วนใหญ่นั้นจะจับคนที่ไม่ผิดและไม่รู้อะไรเลยมาลงโทษ ทำให้คนที่ทำผิดจริงได้ใจกล้าที่จะทำผิดอีก เพราะผู้ตัดสินไม่มีความรอบคอบไม่มีความยุติธรรมจึงทำให้สังคมเราเดี่ยวนี้ไม่น่าอยู่
ฉะนั้น เราเป็นคนหนึ่งที่สามารถทำให้เรื่องราวแบบนี้ไม่เกิดขั้นในสังคมได้ แค่เพียงว่าเราไม่ทำตัวเหมือนลิง ไม่ตัดสินใครผิดหรือถูกแค่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวเหมือนนิทานเรื่องนี้สังคมเราก็น่าอยู่ขึ้นมากเลย
นางสาวพัชรีวรรณ จันทิพย์
คณะวิทยาสาสตร์ สาขาชีวเคมี
รหัส 53530348 เลขที่ 14 กลุ่ม 304

A'lee กล่าวว่า...

จากที่อ่านบทความเรื่องลิงกับลานั้น
แสดงให้เห็นว่าการที่คนเราจะทำสิ่งใดลงไปควรคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ไม่ควรติดสินอะไรโดยดูแต่ภายนอก และไม่ควรตัดสินอะไรโดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเสียก่อน
ซึ่งถือเป็นแง่คิดที่ดีมากสามารถนำไปใช้ในชีวีติได้และเป็นคติเตือนใจให้กับใครอีกหลายๆคน


นายจิราวัฒน์ ตันติพิสิทธิ์ กลุ่ม 304 เลขที่ 5

Aem ;) กล่าวว่า...

การที่เราตัดสินอะไรแค่เพียงผิวเผิน
ไม่ไตร่ตรองและพิจรณาให้ดีแล้ว
สิ่งที่ตามมานั้นยอมทำให้เราเสียใจภายหลังได้เสมอ

สงสารประเทศเราจัง...
ไม่รู้ว่าจะมีคนประเภทนี้อีกเท่าไหร่
ถ้ามีมากกว่าครึ่ง ประเทศเราคงแย่แน่ๆๆ

ชื่อ นางสาว มาลินี มีโพธิ์ (53160014)
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์

กลุ่ม 35 เลขที่ 5

Phakamas กล่าวว่า...

สิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่เป็นอยู่อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้
อย่าตัดสินอะไรง่ายๆ
ต้องหาเหตุมาตัดสิน ไม่ใช่ใช้เพียงอารมณ์มาตัดสิน

นางสาวผกามาศ โวลา
กลุ่ม 35 เลขที่ 10

Phakamas กล่าวว่า...

อย่าตัดสินอะไรง่ายๆ
ต้องดูก่อนว่าใครผิดใครถูก
ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ตาเห็นกับความเป็นจริงจะถูกต้องเสมอ
ใช้เหตุผลในการตัดสิน
อย่าใช้เพียงอารมณ์

นางสาวผกามาศ โวลา
กลุ่ม 35 เลขที่ 10

N.o.K กล่าวว่า...

บทความนี้สอนให้รู้ว่า "อย่าเชื่อแค่ในสิ่งที่ตาเห็น แล้วลงมือลงโทษสิ่งนั้นไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเอง ดังนั้นเราควรพิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ดีเสียก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าใครเป็นผู้กระทำกันแน่ เพื่อเราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลังกับสิ่งที่เราได้ตัดสินใจลงไป"

นางสาว จริยา มงคลธนวัฒน์
คณะวิทยาการสารสนเทศ
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
รหัสนิสิต 53160063 กลุ่มที่ 35 เลขที่ 24

littlefish กล่าวว่า...

เราต้องอย่าเชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็น แต่ควรพิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้เสียก่อน

ชื่อนางสาวนฤมล รัตนปริยานุช
กลุ่ม35 เลขที่2

littlefish กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Do'pong กล่าวว่า...

การตัดสินใจจะทำอะไร โดยไร้ซึ่งสติ ไร้การระงับอารมณ์
และไร้การสอบถามเหตุผล สิ่งที่ตามมาภายหลัง อาจทำให้เสียใจและไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้อีก

ดั่งบทความนี้เป็นต้น


ชื่อ ปัญจพร ปทุมมาศ
กลุ่ม35 เลขที่19

N*FeRn กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
N*FeRn กล่าวว่า...

อย่าติดสินใครแค่ภายนอก ควรใช้เหตุผล มากกว่าอารมณ์

ชื่อ วรรณวิสา แดงกระสันต์
กลุ่ม 35 เลขที่44

pally กล่าวว่า...

อย่าสิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น :)

ชื่อ เพียงพิณ ขวัญศุภฤกษ์
กลุ่ม35 เลขที่4

poployyy กล่าวว่า...

อย่าตัดสินอะไร หากยังไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง


ชื่อ ปาริชาติ พ่อค้า
กลุ่ม35 เลขที่41

inaaw กล่าวว่า...

อย่าตัดสินอะไรที่ภายนอก หากยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร

ชื่อ ณัฐนรี แฟงคล้าย
กลุ่ม 35 เชลที่ 17

53160030 กล่าวว่า...

ผู้ชนะนั้น เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า "ฉันทำผิดเอง" แต่ ผู้ที่ขี้แพ้ เมื่อพบข้อผิดพลาด จะพูดว่า "ไม่ใช่ความผิดของฉัน"
ถ้ามึคนแบบ"ลิง"ในสังคมเยอะๆ....สังคมคงเกิดปัญหา...เกิดความวุ่นวาย
เพราะฉะนั้นการจะตัดสินใคร ก็ขอให้พิจารณาให้ดีก่อน
อย่าตัดสินใครแค่เพียงภายนอก..จงตัดสินที่ภายในของเขา....เพราะถ้าตัดสินใครผิดแล้ว อาจจะทำให้เขาผิด...กับสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อขึ้นมาเลยก็ได้ค่ะ



นางสาวภัทราภรณ์ บุตรพรหม กลุ่ม35 เลขที่ 12
คณะวิทยาการสารสนเทศ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์

James@jj กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
James@jj กล่าวว่า...

การเป็นผู้นำที่ดีนั้นความมีความคิดที่รอบคอบ การตัดสินใจที่มั่นคงถูกต้อง และควรที่จะพิจารฌาก่อนที่จะตัดสินใจอะไร


ชื่อนายจักรพงษ์ กาญจนจัย
มที่กลุ่35 เลขที่36

iize'saitunz* กล่าวว่า...

เรื่องนี้สอนให้หัดมองคนอื่นอย่างมีที่มา,,
ไม่ตัดสินอะไรจากภายนอก,,เพียงเเค่เห็นเท่านั้น?
ต้องลองคิดพิจารณาดีๆเสียก่อน,,
เหมือนกับสังคมสมัยนี้?,,
ที่ต้องคิดวิเคราะห์ถึงความเป็นจริง เบวกกับความถูกต้องด้วย,,, *



นางสาวณัฏฐนันท์ แสงสุริย์
กลุ่ม 35 เลขที่ 9

chok กล่าวว่า...

เรืองนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรตัดสินใจหรือทำการใดในสิ่งที่เห็น ควรคิดไตร่ตรองหาสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นเสียก่อน จึงค่อยตัดสินใจ และการเป็นนายคนควรมีความรับผิดชอบ
นายนำโชค สว่างพบ เลขที่ 18 กลุ่ม 35
รหัส 53160052
คณะวิทยาการสาระสนเทศ

๛“☺”IIv็Jโป๊ก“☻”๛ กล่าวว่า...

ทำให้คนยอ่าน รู้ว่า เราไม่ควรรีบตัดสินใจกับสิ่งที่เห็นแค่ภายนอก
บางที สิ่งที่เราตัดสินใจไป อาจทำให้เราเสียใจในวันหลังก็เป็นได้ ควรคิด ไตร่ตรอง ให้รอบคอบก่อน

นาย ถิรายุ วรรณีเวชศิลป์
กลุ่มที่ 35 เลขที่1

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนที่จะเป็นผู้นำต้องมีความรอบคอบ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจ ไม่ควรมองคนที่ภายนอก

คนที่เป็นลูกน้อง ต้องมีความซื่อสัตย์ อย่าฉลาดแกมโกง ประจบเจ้านาย อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน


นางสาวศรัญญา มิตะบุตร 53160057
เลขที่ 21 กลุ่ม 35

☺♥๛“•”SoMbAt“•”๛♥☺ กล่าวว่า...

บทความเรื่องลิงกับลาที่กระผมได้อ่านได้สะท้อนถึงสภาพสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วยังสะท้อนให้เห็นว่าเราไม่ควรเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเพียงอย่างเดียว ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ ผมคิดว่าจากบทความนี้น่าจะตรงกับสำนวนที่ว่า แพะรับบาป

นายสมบัติ ชัยสายัณห์ 53160018
คณะวิทยาการสารสนเทศ
กลุ่ม 35 เลขที่ 7

TAM กล่าวว่า...

หลังจากที่ได้อ่านอย่างจดจ่อกับนิทานเรื่องลิงกับลาแล้ว สามารถนำข้อคิดจากเรื่องดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับการกระทำ กระบวนการทำงานของบุคคลสำคัญในสังคมรวมทั้งบุคคลทั่วๆไปที่มีความสับเพร่าในการทำงานจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่น ทางการเมืองที่มีการแบ่งสีแบ่งพวกตีกัน ในความคิดของดิฉัน ดิฉันคิดว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปฟังข่าวลือที่ไม่ดีอะไรของอีกฝ่ายหนึ่งมาโดยคิดแต่ทางลบอย่างเดียว ไม่ลองไตร่ตรองความเป็นไปได้ให้ดีๆก่อน จนก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างไม่มีเหตุผล เปรียบเสมือนว่า คนที่ฉลาดและร้ายที่สุดคือคนที่เป็นผู้จุดฉนวนให้เกิดความแตกแยก(ลิง) คนที่หลับหูหลับตาเชื่อเขาไปทุกเรื่อง ใส่ร้ายซึ่งกันและกันจนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทสร้างความเดือดร้อน(คน) คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กลับเป็นชาวบ้าน ประชาชนทั่วไปที่ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งด้วยก็ได้รับความเสียหายต่างๆ มากมาย(ลา) ฉะนั้นเราประชาชนทุกคนไม่อยากเป็นลาน่าจะมาช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาสังคมซึ่งเป็นบ้านของเราทุกคนกันเถิด...^^

โดย นางสาวนันทนา คุณแก้ว กลุ่ม 304 เลขที่ 11

AEWii กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
AEWii กล่าวว่า...

ในบางครั้ง สิ่งที่เรามองเห็น มันอาจจะไม่ใข่ความจริงเสมอไป บางการกระทำของคนอื่นที่แสดงออกมาอาจจะไม่ใข่สิ่งที่เค้าคิดจริงๆ ต่างคนย่อมมีความคิดที่แตกต่าง ขึ้นอยู่ที่ว่าความคิดนั้นจะทำร้ายคนอื่นหรือเปล่า เราเองที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ก็ต้องพบปะกับผู้คนมากมาย เราไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าใครคิดอะไร ดีหรือไม่ดี สิ่งที่ทำได้คือการระวังตัวเอง หลีกเลี่ยงจากคนที่ร้ายกาจเพราะยิ่งอยู่ใกล้คนที่ไม่ดีจะทำให้เรื่องราวที่เขากระทำนั้นวนเวียนอยู่รอบตัวเรา และต้องควบคุมตัวเองให้คิดดี พูดดีและทำดีอยู่เสมอ ความดีคือเกราะป้องกันอันตรายที่ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นหลักประกันของความสุขอีกด้วย...


ชื่อ นางสาวกัลยรัตน์ แป้นจันทร์ กลุ่ม304
เลขที่7 คณะ วิทยาศาสตร์ (ชีวเคมี)

Pikoro กล่าวว่า...

นิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือลิง ให้ข้อคิดหลายต่อหลายยมุม คนเราจะทำไรต้องคิด ไม่ควรตัดสิ้ใครจากภายนอก เสียใจแทนญคนนั้นเพราะต้องเสียลาไป
อัคราชโคตพันธ์
กลุ่ม35 เลขที่49

sunisa.num กล่าวว่า...

การเป็นผู้นำที่ดีควรจะมีความรอบคอบ รู้จักคิด อย่าตัดสินอะไรที่เรายังไม่มีหลักฐานนะคะ เด๋วจะเป็นแบบเรื่องนี้


นางสาว สุนิสา วงศ์จันทร์ เลขที่12 กลุ่ม 49
คณะ วิทยาศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์
รหัสนิสิต 53030245

MyMineMind ใจฉันของฉัน กล่าวว่า...

อยากจะถามว่านี่ ลา หรือ แพะ เนี่ย มารับบาปดีจริง ๆๆ

ผู้นำที่ดีควรจะตัดสินใจอะไรให้รอบคอบ จากเรื่องนี้ หญิงชาวบ้านก็มีความเป็นผู้นำที่ดี ที่ใช้ความคิดของตัวเอง แต่ถ้าจะดีกว่านี้ ควรจะฟังความเห็นของคนอื่นเพื่อมาประกอบการตัดสินใจของตัวเองด้วย และควรจะพิจารณาหลักฐานอะไรอยางนี้ให้รอบคอบเสียก่อน ที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

มาลีฮวนน่า กล่าวว่า...

อ่านแล้วได้แง่คิดดีๆกว่าก่อนเยอะเลยครับ
การจะตัดสินใจทำอะไรไป ก็ควรจะต้องคิดให้ดีเสียก่อน


นาย กัณฑ์เอนก เทียมศิริ กลุ่ม 51 เลขที่26

jor-jui กล่าวว่า...

อ่านแล้วทำให่นึกถึงสภาพของคนในสังคมปัจจุบันแล้วครับ

ปิโยรส เสถียรพาณิชย์
กลุ่ม 13 เลขที่ 13